เคลียร์สิว ผิวใส Medi-Aclear @ M Vita Clinic สุขุมวิท 21


เคลียร์สิว ผิวใส Medi-Aclear @M Vita Clinic 

ใครแฟ้ฝุ่น แพ้น้ำ จนหน้าสิวขึ้นแบบวี่ ขอให้ยกมือขึ้น (TT____TT)//

เกิดมาเป็นคนขี้แพ้ก็ต้องดูแลตัวเอง 

พอซื้อยา ซื้อครีมรักษาสิวต่างๆมาลองใช้เอง สิวก็ไม่หายซักที

ก็เลยต้องหาคลินิกดีๆมาช่วยดูแลปัญหาผิวก่อนที่จะแย่ไปมากกว่านี้

ซึ่งวี่เลือกมาที่ M Vita Clinic 

เพราะที่นีเขาดังเรื่องรักษาสิว เลเซอร์สิว 

รักษาแผลสิว และรักษารอยแผลเป็นจากสิวนั่นเอง

สำหรับโปรแกรมรักษาสิวของ M Vita Clinic

มีชื่อว่า Medi-Aclear Program หรือ โปรแกรมเมดิแอคเคลียร์ 

ที่ คุณหมอเอ็ม ได้ออกแบบมาเพื่อให้ตอบโจทย์การรักษาสิวทุกประเภท

ทั้งสิวผด สิวอุดตัน สิวอักเสบต่างๆ รวมถึงรอยสิวให้ดีขึ้นอย่างรวดเร็ว

คลินิกเดินทางง่าย อยู่แค่ซอยอโศกมนตรี ถ.สุขุมวิท 21 

อยู่ตรงข้ามโรงพยาบาลจักษุรัตนินเลยค่ะ

ถ้าใครขับรถมาก็สามารถนำไปจอดที่อาคาร Sukhumvit Living Town ฝั่งเดียวกับคลินิกได้เลย

จอดฟรีถ้าประทับตราคลินิก แล้วเดินจากอาคารมาคลินิกไม่ถึง 100 เมตร 

พอมาถึงกรอกประวัติและทำประวัติเรียบร้อย 

ก่อนจะเริ่มการรักษาต้องรอพบคุณหมอเอ็มก่อนทุกเคส 

เพราะฉะนั้นมั่นใจได้เลยว่า จะได้รับคำปรึกษาและการรักษา

ที่ตรงจุดและตอบโจทย์ปัญหาผิวของแต่ละคน

หลังจากคุณหมอเอ็ม หรือ นพ. มนตรี อุดมประเสริฐกุล 

ดูสภาพผิวหน้าของวี่แล้ว ก็แนะนำว่า 

โปรแกรมที่เหมาะสำหรับการรักษาสิวและรอยสิว ก็คือ 

โปรแกรมเมดิแอคเคลียร์ นี่แหละ 

ขอบอกว่า คุณหมอเอ็ม น่ารัก สุภาพ นอบน้อมและเป็นกันเองมาก


หลังจากพบคุณหมอเสร็จก็เตรียมตัวทำทรีทเม้นท์รักษาสิวกันเลย

โดยห้องทำหัตถการทั้งหลายจะอยู่ที่ชั้น 3 ของคลินิก

คลินิกสะอาดและแต่ละห้องจะแบ่งแยกห้องกันชัดเจน ให้ความเป็นส่วนตัวมากๆ

และมีมุมโซฟาสำหรับนั่งรอ และโซนอ่างล้างมือ กระจก ไว้เช็คความสวยหลังทำเสร็จ


ขั้นตอนแรก ก็คือ การทำความสะอาดผิวหน้า 
โดยใช้ Cleanings เช็ดทำความสะอาดผิวหน้า 
และตามด้วยการล้างด้วยโฟมล้างหน้า จากนั้นก็เช็ดผิวหน้าให้แห้ง

จากนั้นก็เริ่มการทำ โปรแกรมเมดิแอคเคลียร์ ที่มี 7 ขั้นตอนหลักๆ คือ

1. ผลัดเซลผิวอย่างอ่อนโยนด้วยกรดผลไม้ 
ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของทางคลินิก 
โดยทากรดผลไม้ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาทีแล้วเช็ดออก
ช่วยลดการอุดตัน รักษารอยสิว ทำให้กดสิวได้ง่ายขึ้น

2. พ่นโอโซนเพื่อช่วยเปิดรูขุมขน 
โดยใช้เครื่องพ่นโอโซนพ่นวนๆทั่วใบหน้า
จะรู้สึกถึงละอองเล็กๆพ่นลงบนผิว รู้สึกสบายผิวและผ่อนคลายมาก
ซึ่งเป็นการช่วยเสริมให้การกดสิวทำได้ง่ายขึ้นขั้นด้วย


3. ต่อมาเป็นขั้นตอนการกดสิว โดยพี่พนักงานที่เชี่ยวชาญ 
และได้รับการอบรมมาเป็นอย่างดี ทำให้มีความเชี่ยวชาญในการกดรักษาสิวเป็นพิเศษ 
และให้เวลาในการกดสิวอย่างเต็มที่ ไม่มีการจำกัดเวลาหรือจำนวนเม็ดสิวที่กด
กดสิวทุกเม็ดเคลียร์หน้าให้เกลี้ยง 

4. ลดการอักเสบโดย Acne spark เป็นการใช้คลื่นประจุความถี่สูง 
ไล่วนทั่วใบหน้า จะรู้สึกจี๊ดๆที่ผิวเหมือนไฟช็อตเบาๆ 
แต่แค่เป๊ปเดียวก็เสร็จ เป็นการลดการอักเสบสิวอย่างรวดเร็ว 
และยังช่วยฆ่าเชื้อสิว ให้สิวแห้งเร็ว หายบวมได้เร็วขึ้น

5. การฉายแสง LED phototherapy หรือ PDT Blue Light 
โดยใช้แสงสีน้ำเงิน ที่ความยาวคลื่น 415 nm 
ซึ่งสามารถฆ่าเชื้อ แบคทีเรียที่รูขุมขนชั้นตื้นได้
และใช้แสงสีแดง ที่ความยาวคลื่น 633 nm 
 ซึ่งช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในรูขุมขนชั้นลึก 
และยังช่วยลดการอักเสบ ให้สิวดีขึ้นอย่างรวดเร็ว 
และฟื้นฟูผิวให้แข็งแรงขี้นอีกด้วย
ซึ่งจะใช้เวลาฉายแสงสีฟ้าและสีแดง ประมาณ 15 นาที 
ตอนฉายแสงจะรู้สึกอุ่นๆที่ผิวหน้า ก็นอนรอชิลๆสบายๆจนครบกำหนดเวลา


6. เสร็จแล้วก็ย้ายมาที่ห้องเลเซอร์ แต่ก่อนเลเซอร์ 
ต้องจัดการกับสิวอักเสบ โดยการฉีดสิวอักเสบ 
ซึ่งขั้นตอนนี้ คุณหมอจะเป็นคนฉีดให้เอง 
เพื่อให้สิวลดการอักเสบและสิวยุบตัวลง
โดยปกติวี่จะไม่ค่อยเป็นสิวอักเสบขึ้นเท่าไหร่ 
คุณหมอเลยบอกว่าไม่จำเป็นต้องฉีดค่ะ

7. และต่อด้วยการใช้ Dual yellow เลเซอร์มาตรฐานระดับโลก 
คุณหมอจะทาเจลลงบนผิว ก่อนจะใช้เลเซอร์ยิงลงบนผิว 
ช่วยให้รอยจางลงเร็วขึ้นและทำให้ผิวดูใส เกลี้ยง 
สิวและรอยสิวจางลงได้เร็วยิ่งขึ้นด้วย

ซึ่งทั้งหมด 7 ขั้นตอนจะใช้เวลาทำแล้วรวมๆประมาณ 45 นาที


และสุดท้ายก่อนกลับบ้าน ในคอร์ส ยังมียาทาสูตรพิเศษของ เอ็มวีต้าคลินิก 
ให้กลับไปทาและรับประทาน แบบไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่มด้วย
ซึ่งแต่ละสัปดาห์จะได้ตัวยาทาครั้งละ 4-5 ชนิด
และยารับประทาน 1 ชุดด้วย 
เพื่อที่เราจะได้ทายารักษาต่อที่บ้านในระหว่างอาทิตย์ 
สิวจะได้หาย รอยจะได้จางลงเร็วยิ่งขึ้นอีก


แค่มาพบคุณหมออาทิตย์ละ 1 ครั้ง ทั้งหมด 5 อาทิตย์
นี่คือรูปหน้าสด ทั้ง 5 ครั้งที่แต่ละอาทิตย์วี่ไปทำคอร์ส MD ที่ M Vita Clinic
จริงๆรู้สึกได้ตั้งแต่หลังทำครั้งแรก 2-3 วัน 
วี่ก็รู้สึกเลยว่า ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น 
เพราะได้กดสิว เคลียร์สิวอุดตันต่างๆออก 
และสิวผดเม็ดเล็กๆก็ลดน้อยลง
รอยสิวก็จางลง ผิวหน้าก็จะดูเริ่มเกลี้ยงขึ้น 
ทำแล้วไม่มีอาการระคายเคือง หรืออาการหน้าลอก หรือไวต่อแสง
สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ปกติ ไม่มีข้อห้ามหรือข้อระวังอะไร
แต่ควรหมั่นทาครีมหรือตัวยาที่ทางคลินิกให้มาทา 
และรับประมานยาทุกวันอย่างสม่ำเสมอ

ทำ MD 5 ครั้งผ่านไป
เห็นชัดมากๆ ว่าสิวตรงหน้าผากน้อยลงเยอะเลย 
จากที่เคยเป็นสิวอุดตัน หน้าผากเรียบขึ้น แทบไม่มีสิวขึ้นเพิ่ม 
นอกจากช่วงไหนที่เป็นประจำเดือน ก็จะมีสิวฮอร์โมนขึ้นบ้าง
 รอยแดง รอยดำจากสิวก็ดูจางลงไปเยอะ ชอบผิวตัวเองตอนนี้มาก

โปรแกรมนี้เป็นคอร์สรักษาสิวที่ดีมากจนวี่อยากมาแนะนำ
จากที่เคยรักษาที่อื่นไม่เห็นผลหรือเห็นผลช้า
 ก็ต้องมาจบที่โปรแกรม MD ที่ M Vita Clinic นี่แหละ
ตอนนี้กล้าหน้าสดออกจากบ้านได้ แบบไร้กังวล


ถ้าถามถึงมาตรฐานและความน่าเชื่อถือของคลินิก
ก็หายห่วงได้เลย เพราะ M Vita มีรางวัล และประกาศนียบัตรมากมาย
ดูได้จากป้ายที่ประดับคลินิกชั้นล่างของคลินิกเลย

สำหรับ โปรแกรมเมดิแอคเคลียร์  ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2,750 บาท
ถ้าเป็นแบบคอร์ส  5 ครั้ง ราคา 9500 บาท
คุ้มมาก กับการรักษาสิว และเลเซอร์รอยแบบจัดเต็มครบสูตร
ราคานี้ คือ ราคา Net แบบจบเลย ไม่ต้องจ่ายเพิ่มแล้ว

เอ็มวีต้าคลินิกอยุ่ที่ซอยอโศกมนตรี ถ.สุขุมวิท 21 

เปิดให้บริการทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 11.00 - 20.00 น. (หยุดวันจันทร์)

สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่


หรือโทร 02 - 640 -8097

M Vita Clinic เป็นอีกหนึ่งทางออกของคนเป็นสิว 
รอยสิวและหลุมสิวที่วี่อยากแนะนำค่ะ
------------------------------------------------------------------------------------

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Review : ริ้วรอยกวนใจ ก็ต้องไปโบท็อก @AURA BANGKOK CLINIC

[Review] Finezza รองเท้าเพื่อสุขภาพ ใส่สบาย ใช้แล้วคุ้ม !!